ประวัติความเป็นมา

ตำรวจภูธรภาค 6 เป็นหน่วยราชการระดับ กองบัญชาการ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามพระราชกฤษฎีกาโอนกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย ไปจัดตั้งเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2541 รับผิดชอบบังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง รวม 9 จังหวัด คือ พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิจิตร ตาก อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และสุโขทัย มีหัวหน้าหน่วยเรียกว่า
“ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6”

แต่เดิมมีกองบัญชาการตำรวจภูธร ในสังกัดกรมตำรวจ รับผิดชอบพื้นที่ทุกจังหวัด นอกจากกรุงเทพมหานคร สำหรับพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างดังกล่าวนั้น อยู่ในความรับผิดชอบ
ของกองบังคับการตำรวจภูธรเขต 6 มีหัวหน้าหน่วยงานเรียกว่า “ผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 6”
มีสถานที่ตั้งของกองบังคับการ อยู่บนเนื้อที่ 15 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ถนนบรมไตรโลกนารถ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จัดหวัดพิษณุโลก

ตัวอาคารกองบังคับการตำรวจภูธรเขต 6 เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2508 โดยมีพลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมตำรวจในสมัยนั้นมาเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ และเปิดทำการเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2510 ต่อมาในปี พ.ศ.2519 มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการของกรมตำรวจขึ้นมาใหม่ ทำให้พื้นที่ 9 จังหวัดซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจภูธรเขต 6 ถูกแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ กองบังคับการตำรวจภูธร 8 รับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์กับกองบังคับการตำรวจภูธร 9 รับผิดชอบพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ ตาก และอุทัยธานี ทั้งสองกองบังคับการดังกล่าวนั้น รวมทั้งกองบังคับการตำรวจภูธร 7 ที่รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนขึ้นสายการบังคับบัญชาต่อกองบัญชาการตำรวจภูธร 3 จังหวัดลำปาง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่รวมทั้งสิ้น 17 จังหวัดภาคเหนือ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2537 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2536 มีการปรับโครงสร้างกรมตำรวจ ตำรวจภูธรได้ถูกแบ่งใหม่เป็น 9 ภาค (เดิมมี 4 กองบัญชาการตำรวจภูธร) พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนจังหวัดภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภาค 5 และจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด อยู่ในความรับผิดชอบตำรวจภาค 6 (พื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธร 8, 9 เดิม) กรมตำรวจได้มอบหมายให้ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจไปควบคุมกำกับการตำรวจภูธรแต่ละภาค สำหรับหน่วยงานตำรวจภาค 6 กรมตำรวจได้มอบหมายให้ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจทำหน้าที่หัวหน้าตำรวจภาค 6 เป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วย มีผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ เป็นรองหัวหน้าตำรวจภาค 6 และผู้ช่วยผู้บัญชาการ เป็นผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจภาค 6

ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2539 จัดตั้งตำรวจภูธรภาค 1-9 ขึ้น เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2539 จึงมีผลให้ยุบเลิก “ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ หัวหน้าตำรวจภาค 6” เรียกหน่วยงานใหม่ว่า “ตำรวจภูธรภาค 6” มี “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6” เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน จะเห็นได้ว่า คำว่า “ตำรวจภูธร”ถูกตัดออกไปตั้งแต่ พ.ศ.2537-2539 ใช้คำเรียกหน่วยว่า “ตำรวจภาค 6” จนถึง 22 ตุลาคม พ.ศ. 2539 จึงใช้คำเรียกหน่วยว่า “ตำรวจภูธรภาค 6” ต่อมาเมื่อกรมตำรวจเปลี่ยนเป็น “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ในปี พ.ศ.2541 ชื่อเรียกตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานของตำรวจภูธรภาค 6 ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเรียก “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6” เช่นเดิม

อาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 6 แต่เดิมได้ใช้อาคารที่ทำการของกองบังคับการตำรวจภูธร เขต 6 (เดิม) หรือ กองบังคับการตำรวจภูธร 8 (ต่อมา) เป็นที่ตั้งหน่วยงาน แต่เนื่องจากอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 6 (เดิม) มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน อีกทั้งคับแคบทำให้การบริการประชาชนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงพิจารณาอนุมัติให้ทำการก่อสร้างอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 6 ขึ้นใหม่ ณ เลขที่ 21 หมู่ 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ที่ทำการแห่งใหม่มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 339 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา โดยของบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการบ้านพัก พร้อมสิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวม 37 รายการ เป็นเงิน 621,334,000 บาท เมื่อทำการก่อสร้างอาคารที่ทำการแล้วเสร็จ ตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ ณ อาคารที่ทำการแห่งใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547